Sunday, January 3, 2016
เดชตือโป๊ยก่าย
"พิเชษฐ" ลั่นขอรักษาอุดมการณ์ ปชป. ย้ำจุดยืนชัด 5 ข้อ ประกาศคว่ำ รธน.ชั้นประชามติ ลั่นความจริงที่ คนปชป. ไม่กล้าพูด
"พิเชษฐ" ลั่นขอรักษาอุดมการณ์ ปชป. ย้ำจุดยืนชัด 5 ข้อ ประกาศคว่ำ รธน.ชั้นประชามติ ลั่นความจริงที่ คนปชป. ไม่กล้าพูด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ก.ย.) นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตรมช.คลัง และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงคำแถลงของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ระบุหนุนร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนทำประชามติ โดยยืนยันว่า มวลชนเกินครึ่งของ กปปส. ไม่เคยเลือกประชาธิปัตย์มาก่อนเลยว่า คำแถลงของนายสุเทพต้องขอบันทึกเป็นประวัติศาสตร์การเมือง ส่วนตนยังเป็นคนพรรคประชาธิปัตย์และพร้อมจะยืนหยัดรักษาอุดมการณ์และศักดิ์ศรีของพรรค ยืนยันว่าไม่เคยเห็นด้วยกับการรัฐประหารยึดอำนาจล้มระบอบประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
นายพิเชษฐ ยังระบุต่อว่า 1.พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ประกาศไม่รับรัฐธรรมนูญพร้อมลงมติคว่ำชั้นประชามติ 2. เปรียบนักกีฬาปฏิเสธกติกาเถื่อน 3. นักกีฬามีสิทธิไม่ลงแข่งขัน หากกติกาไม่ชอบมาพากล 4.รัฐธรรมนูญจะสร้างความวุ่นวายเสียหายแก่ระบบการเมืองและประชาธิปไตยในอนาคต 5.สังคมประชาธิปไตยสากลทั่วโลกกำลังจับตาดูแลและพร้อมจะต่อต้านรัฐบาลไทยที่มาจากการรัฐประหาร และ 6. หากยังดันทุรังอยู่เช่นนี้ ประเทศชาติมีแต่จะยิ่งเสียหายและทีมเทวดาที่ไหนก็จะมาแก้ปัฐหาเศรษฐกิจไทยไม่ได้
นายพิเชษฐ ระบุต่อว่า ต่อไปนี้ประชาธิปัตย์จะลำบาก เพราะคนกลุ่มหนึ่งเอาชื่อพรรคไปก่อพฤติกรรมที่ไม่ตรงกับอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรค ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็นิ่งเฉยเพราะเกรงใจผู้มีอำนาจที่ครอบงำพรรค สิ้นยุค นายชวน หลีกภัย ภายในพรรคเปลี่ยนแปลงไปมาก เต็มไปด้วยหัวหลักหัวตอ บ้างก็หนีหายไปจากพรรค บ้างก็ทนโท่อยู่อย่างจำนน อย่างเจ็บปวด วันนี้เราไม่เหมือนเก่า ประชาธิปัตย์ยุคเก่าหมดแล้ว มีแต่ที่เห็นๆ และหน้าใหม่ที่กำลังเข้ามาพร้อมก่อศึกทุกทิศ ประชาธิปัตย์กลายเป็น กปปส.แต่คนกปปส.จำนวนหนึ่งจำเป็นต้องเป็นประชาธิปัตย์เพราะเขาอยู่ กทม.และภาคใต้ แต่แท้จริงเขาไม่ใช่ประชาธิปัตย์แล้ว
"69 ปีแล้ว ที่พรรคยืนหยัดมาอย่างอดทน ใครไม่ชอบคนก็โปรดอย่าทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ครับ วันนี้พระเสาร์เข้าราหูแทรก รอเวลาพระอาทิตย์กับพฤหัสจะกลับมาให้คุณ คงไม่ช้าจนเราแตกดับไปเสียก่อน ตนอายุมากกว่าพรรค และถึงเวลาต้องวางมือการเมือง และปลงอายุสังขาร ขอพูดตรงไปตรงมา ไม่หวังผลทางการเมือง ส่วนที่ต้องแตกก็แตกออกไปแล้วครับ และช่วยกันจดจำไว้ว่าเขาไม่ใช่ประชาธิปัตย์แล้ว" นายพิเชษฐ ระบุ
นอกจากนี้ นายพิเชษฐได้ตอบกระทู้ถามในเฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า "ใครละที่ปลุกม็อบออกมาฆ่ากัน คนเจ็บคนตายคนพิการเท่าไร ใครรับผิดชอบ ฝ่ายแกนนำปลุกม็อบทั้งหลายเคยมีใครเจ็บใครตายบ้าง ล้วนแต่เอาประชาชนที่ยังไม่ตื่นมาเป็นเครื่องมือ วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นเราต่ำที่สุดในเอเชีย ส่งออกสินค้าถูกตัดจีเอสพี ต้องเสียภาษีนำเข้ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน 6-10% ถูกปักธงแดงเรื่องสายการบินจนจะหายนะหมด ถูกมาตรการประมงจนต้องเสียหายปีละกว่า 2 แสนล้านบาท พืชผลการเกษตรทุกอย่างราคาตกหมด ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกตัด ประเทศสหภาพทั้งหมดงดส่งผู้แทนเยือนไทย หายนะแค่นี้พอไหม เกิดจากสถานการณ์อะไร พันธมิตรชุมนุม กปปส.ปิดเมืองรวมหลายร้อยวัน ใครไปร่วมบ้าง เสื้อแดงเผาเมืองกี่ครั้ง ใครเป็นฝ่ายความมั่นคงรับผิดชอบ ผมไม่มีเวลาจาระไนมากกว่านี้ และหากคิดว่าผมคิดผิดและคบไม่ได้ เชิญเลิกเป็นเพื่อนกับผมได้ครับ"
Saturday, January 2, 2016
วิเคราะห์ // จับตา “ทักษิณ” ถอย ส่งสัญญาณเอาด้วยรัฐบาลแห่งชาติ โดย นาย อาสาหาข่าว
ดร. เพียงดิน รักไทย 3 ม.ค. 2559 ตอน อ่านเกม "ดร. ทักษิณ ชินวัตร" ในปีวอก 2559
ดร. เพียงดิน รักไทย 3 ม.ค. 2559 ตอน อ่านเกม "ดร. ทักษิณ ชินวัตร" ในปีวอก 2559
หรือ
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
ปีใหม่อย่าโง่กว่าปีเก่า โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ เรา มีปีใหม่ไว้เพื่ออะไรกัน ถ้ามีไว้เพื่อสนุกสนานก็คงจะไม่วิเศษวิโสไปกว่าเดรัจฉาน ซึ่งเผลอๆก็ไม่ได้สนใจปีใหม่ อยู่ไปตามธรรมชาติไม่สิ้นเปลืองอะไรด้วย ไม่มีการกินเลี้ยงปีใหม่ คนเราบางทีทำซะเกินจนกลายเป็นปัญหาที่คาดไม่ถึง ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่กันจนรถแน่น รถติด อุบัติเหตุก็มากกว่าช่วงอื่น บาง คนว่าช่วงปีใหม่เป็นช่วงวันเมาแห่งชาติ วันผลาญสติ ประทุษร้ายสติแห่งชาติ แต่ละปีก็เห็นอุบัติเหตุมากขึ้น แม้จะมีการรณรงค์ทั้งวันปีใหม่ วันสงกรานต์ แต่ก็เห็นตายกันมากมายก่ายกองทุกปี เพราะว่าเรากินเกิน ใช้เกิน ตายกันมากขนาดนั้น เมากันมากขนาดนั้น กินบ้าบออะไรชนิดที่ไม่มีสติปัญญาจะเอาชนะอารมณ์ใฝ่ต่ำพวกนี้ได้เลย จะ บอกว่าเป็นพวกมนุษย์อันประเสริฐ ถ้าเป็นมนุษย์ประเสริฐจริงคงไม่ต้องกินจนเตลิดเปิดเปิงกันขนาดนั้น ควรจะทำอะไร คิดอะไรที่เป็นไปในทางสร้างสรรค์ ในทางเจริญกว่าเก่า อย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสท่านเขียนติดไว้ที่วัดสวนโมกข์ว่า "ปีใหม่อย่าให้โง่กว่าปีเก่า" โง่อะไรกันบ้างในปีใหม่ ก็โง่บันเทิง เราโง่หลงบันเทิง เดี๋ยวนี้ความบันเทิงมีหลายระดับ ระดับที่เป็นหยาบๆก็มี เช่น ขวิดควาย ชนวัว ตีไก่ นักมวยเด็กก็เอามาสู้กันแล้วก็เกิดความบันเทิง สนุกสนาน อ้างว่าเป็นการกีฬาบ้าง อนุรักษ์บ้าง อยากจะฝากว่าอย่าโง่เรื่องบันเทิง คนที่เขามาทำให้เราสนุกบางทีชีวิตเขาทุกข์จะตาย อย่าคิดถึงความ บันเทิงที่เขาเล่นให้ดู ต้องนึกถึงพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ ไปดูละคร ฟ้อนรำ เสร็จแล้วท่านก็พิจารณาไป ซึ่งมันไม่ได้เรื่องเลย ดูเขาเล่นแล้วเข้าหลังโรงก็จบ แต่เราถูกฉกเวลาไว้กับความบันเทิง หมดเวลาไปกับความบันเทิง อีกเรื่องก็คือ อย่าโง่สิ่งยั่วยวน คนแก่ๆไปทำอะไรไม่ดีกับเด็กแล้วก็บอกว่าเด็กมันยั่ว ทั้งๆที่ตัวเองแก่แล้วทำไมไม่ฝึกอดทนต่อการยั่วบ้าง ถ้าฉลาดต่อการยั่วยวนไม่พูดหรอกว่าเด็กมันยั่ว การโฆษณาขายของ เอาดารามากินยั่วจนทนไม่ไหว เห็นดารากินก็กินกับเขาบ้าง แม้แต่ชาวไร่ชาวนาก็ยังโดนโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ ไปซื้อปุ๋ยปลอม ยาปลอมมาใช้ นี่แหละเป็นผลของการยั่ว อีกตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ควรจะ โง่เลย ก็พวกใหญ่ๆโตๆที่โง่ต่ออำนาจ โง่ต่อตำแหน่ง คนมีอำนาจก็ต้องระวัง ได้อำนาจแล้วอย่าใช้เกียรติยศไปสร้างความอัปยศ บางคนมีตำแหน่งดีๆอยู่แล้ว เงินเดือนก็เยอะแล้ว ยังจะรีด จะไถ จะโกง จะกิน จนอัปยศเป็นข่าวคาวฉาวโฉ่อะไรอย่างนี้ มีอำนาจ ตำแหน่งสูงขนาดนี้ ยังหิวกระหายอยากได้เล็กได้น้อย จนกลายเป็นว่าเสียหายเมื่อตอนบั้นปลายชีวิต ทั้งๆที่เคยจับเขาใส่กุญแจมือมานับไม่ถ้วน ต่อมากลับถูกจับใส่กุญแจมือเสียเอง ยังไงผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย พอได้อำนาจแล้วอย่าหิวกระหายลาภผล สิ่งตอบแทนอะไรมากนัก ส่วนคนที่ยังไม่ได้ก็อย่ากระหายอยากได้ ลงแข่งขัน ทุ่มเงินทุ่มทองอะไรกันมากมาย ขอให้อยู่อย่างคนที่ไม่กระหายต่ออำนาจจะสบายกว่าเยอะเลย เจริญพร ที่มา http://www.lokwannee.com/web2013/?p=194754 |
|
เปิดชื่อ“เจ้าสัว”ขับเคลื่อนโครงการรัฐ | เดลินิวส์
„เปิดชื่อ"เจ้าสัว"ขับเคลื่อนโครงการรัฐ ตั้ง "รมต.-เจ้าสัว" ประธานร่วมขับเคลื่อนโครงการรัฐ ผ่านครม. 12 คณะทำงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เชื่อมความร่วมมือรัฐทำงานร่วมเอกชนพัฒนาประเทศ วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2558 เวลา 18:00 น. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงการจัดตั้งคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจได้นำรายชื่อคณะกรรมการดังกล่าวให้กับที่ประชุมครม.เห็นชอบเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว แบ่งคณะทำงานย่อยออกเป็น12 ชุดและดึงผู้บริหารของบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาเป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีจากแต่ละกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนโครงการด้าน ต่างๆ ของรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จ สำหรับรายชื่อของเอกชนที่เข้ามาเป็นประธานร่วมกับภาครัฐนั้นมีทั้ง นายกานต์ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย นายชาติศิริ โสภณพนิชกรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)นายฐาปน สิริวัฒนภักดี บมจ.ไทยเบฟเวอเรจและนายสนั่น อังอุบลกุลประธานกรรมการบมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และนายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของคณะทำงานย่อย12ชุด ประกอบด้วยคณะทำงานด้านการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภาพ ,คณะทำงานด้านการดึงดูดการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ,คณะ ทำงานด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น,คณะ ทำงานด้านการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ,คณะทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและ ประชารัฐ,คณะทำงานด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมอุตสาหกรรมการ ประชุมและจัดนิทรรศการ(ไมซ์) รวมทั้งคณะทำงานด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ ,คณะทำงานด้านพัฒนาคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคตคณะทำงานด้านการปรับแก้ กฎหมายและกลไกภาครัฐ ,คณะทำงานด้านการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่,คณะทำงานด้านการศึกษาพื้นฐานและการ พัฒนาผู้นำและคณะทำงานด้านการสร้างรายได้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของประเทศ"
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/367454