Monday, March 14, 2016

วิพากษ์ดวงเมืองไทย

  • Dhanatchai Chatchai

    วิพากษ์ดวงเมืองไทย ////// วิถีของสรรพสิ่ง ย่อมมีจุดกำเนิด โดยวิถีของคนก็จะมีเส้นทางชะตาชีวิตของแต่ละคน โดยผ่านมุมมองของการวางดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์ หากเป็นสรรพสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ชีวิตก็มีการวางดวงชะตาเช่นกัน อย่างการวางศิลาฤกษ์ เป็นต้น หรือเรื่องเกี่ยวกับเมือง ปกครอง สังคม คือ การวางดวงเมือง ทั้งหมดมันบ่งบอกถึง ทุน(หากเป็นคนคือทุนของชีวิต) กรรมคือการถือกำเนิดขึ้นมาที่มาพร้อมกับเรื่องในอดีตชาติว่ากระทำอะไรมา และเรื่องในวันข้างหน้า(ดี เลว รุ่ง ฟุบ) ว่าจะต้องปฏิบัติอะไร อย่างไร เรื่องที่ไม่ควรกระทำ(นี่คือจุดเริ่มต้นของศาสตร์พยากรณ์ ที่เรียกแบบเป็นทางการว่า โหราศาสตร์) พิเคราะห์ดวงเมืองจากรูปดวงชะตา ///////// (๑)เริ่มต้นจากราศีแรกคือราศีเมษ(จะเห็นลัคนา ย่อด้วยตัว ล และมีเลข ๑ ) วนไปทางซ้าย ถัดไปคือราศีพฤษก เมถุน กรกฎ สิงห์ กันย์ ตุล พิจิก ธนู มังกร กุมภ์ และมีน ราศีสุดท้าย --------- (๒)ในราศีเมษ จะมีดาว อาทิตย์(๑) และลัคนา(เหตุผลมีความเชื่อตามพราหมณ์ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ที่เขาพระสุเมรุ อาทิตย์ให้พลังหรือสร้างพลังกับเจ้าของดวงชะตา คือความเป็นใหญ่ หากเป็นคนคือผู้เป็นใหญ่ และหมายถึง ผู้ชาย)------ (๓)ในราศีพฤษก จะมีดาวอังคาร(๓) และดาวเกตุ(๙) (อังคารหมายถึงทหาร)------- (๔)ในราศีเมถุน จะมีดาวมฤตยู(๐)------ (๕)ในราศีกรกฎ จะมีดาวจันทร์(๒) (จันทร์หมายสตรีหรือผู้หญิง)------ (๖)ในราศีธนู จะมีดาวพฤหัส(๕) และดาวเสาร์(๗)------- (๗)ในราศีมีน จะมีดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์ (๖) และดาวราหู(๘)------- เหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับดวงเมือง /////// (1)มีงูตัวเล็กๆ 4 ตัว อยู่ในหลุม (2)บรรดานักปราชญ์ผู้รู้ทั้งปวงต่างก็ให้ความเห็นสอดคล้องต้องกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จัดว่าอยู่ในจำพวกอวมงคลนิมิต (3)เกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นอาเพท คือเกิดฟ้าผ่าไฟไหม้พระที่นั่งอมรินทร์มหาปราสาท (4)เหตุที่ชะตากรุงเทพมหานครตั้งแต่ฝังเสาหลักเมืองนั้น ชะตาเมืองอยู่ในเกณฑ์ร้ายถึง 7 ปี 7 เดือน เป็นอันเสร็จสิ้นพระเคราะห์เมืองไป และจะถาวรลำดับกษัตริย์ไป 150 ปี (5)พิธีฝังเสาหลักเมืองในวันนั้น เป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะในหลุมลึกที่ฝังเสาหลักเมืองที่กรองก้นหลุมไว้ด้วยผ้าขาวและสรรพคาถาอาคมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย พร้อมกับงูเล็ก 4 ตัว (6)งูในหลุม 4 ตัวนั้น โบราณทราบกันว่า มันบอกถึงการสิ้นสุดของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ว่าเป็นการสิ้นสุดของระบอบ ในระยะนั้น เจ้านาย 4 พระองค์เป็นผู้รับผิดชอบกิจการของบ้านเมือง ทั้งฝ่ายนอกฝ่ายในคือ (1) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (2) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ (3) กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน (4) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระราชสมภพในปีเดียวกันทั้ง 4 พระองค์คือ ปีมะเส็งซึ่งหมายถึง งูเล็กหรืองูทั้ง 4 ตัวที่ตายอยู่ในหลุมฝังเสาหลักเมือง (7) ดังนั้นเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์นี้ได้ทำบุญแก้เคล็ดหรือสะเดาะเคราะห์ ด้วยการร่วมกันสร้างตึกขึ้นหลังหนึ่งที่เรียกว่า ตึกสี่มะเส็ง ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์หรือที่สถานเสาวภาทุกวันนี้ (8) อย่างไรก็ตาม เรื่องของขนบประเพณีในการสร้างบ้านสร้างเมืองหรือหลักการสร้างบ้านสร้างเมืองตามพิธีนครฐานนั้น เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ร้อยแปดที่จะต้องการนั้น ประกอบด้วยเหตุสองประการคือ (ก) จะต้องมีอาถรรพ์หรือคำสาปแช่งนานาประการที่จะป้องกันเสนียดจัญไรหรืออันตรายทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง (ข) ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไม่ให้ผู้คนอดอยากและได้รับเวรภัยใดๆ ให้ประสบแต่ความสมบูรณ์พูนสุขทั้งบ้านเมือง ________ ทั้ง 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานครนั้น คนโบราณเล่ากันว่าได้มีการฝังอาถรรพ์ไว้ทั้งทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก เพื่อป้องกันคนชั่วและคนที่มีความประสงค์ร้ายต่อบ้านเมืองอย่าได้มีโอกาสเข้ามาพ้นจากมุมที่ท่านฝังอาถรรพ์เหล่านั้นไว้เป็นอันขาด (9)ในความจริงที่แน่นอนคือ มีการอัญเชิญท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เข้ามาประกอบพิธีด้วย โดยให้ปลูกโรงศาลโรงพิธีขึ้นใกล้ๆ กับหลุมที่จะขุด เพื่อจะปักเสาหลักเมืองนั้น ตั้งศาลจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศขึ้น 4 ศาล( ซึ่งเป็นการฝังอาถรรพ์ทั้ง 4 มุมเมือง)

  • Dhanatchai Chatchai
    3/8, 5:11am
    Dhanatchai Chatchai

    ดวงเมืองประเทศไทย:ว่าตามหลักการทางโหราศาสตร์ --------------- ดูตามดวงชาตาแล้ว ดวงเมืองมีลัคนาสถิตอยู่ที่ราศีเมษ ถูกขนาบด้วยราศีพฤษกที่มีดาวบาปเคราะห์คือ อังคาร(๓) และราศีมีนที่มีดาวบาปเคราะห์คือ ราหู(๘) /// ในราศีธนู ดาวพฤหัสบดี(๕)เป็นดาวศุภเคราะห์ ถูก(เบียด)เบียนด้วยดาวเสาร์(๗) และยังเล็งกับดาวมฤตยู(๐)ที่อยู่ในราศีเมถุน อันเป็นดาวบาปเคราะห์ทั้งคู่ /// ดวงเมืองของประเทศไทยมีจุดเสื่อมอยู่ 3 จุดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักการแห่งโหราศาสตร์อย่างเข้มงวด ดังนี้ จุดที่ ๑) จุดที่เป็นตำแหน่งร่วมของดาวพฤหัส(๕) กับดาวเสาร์(๗)ในราศีธนู ซึ่งหลักการของโหราศาสตร์ในเรื่องการวางเรือนหรือภพ (พูดง่ายๆก็คือบ้าน) ซึ่งราศีธนูนี้เป็นเรือนศุภะ เป็นเรือนที่ให้ประโยขน์ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นไปตามปกติของการโคจร แต่ในความเป็นจริง ดาวสองดวงนี้พักร์องศา (คือเดินหรือโคจรถอยหลัง) ก็กลับเป็นผลเสียมากกว่า จุดที่ ๒) ในเรือนหรือภพที่ ๑๒ ราศีมีน ที่เป็นเรือนวินาศน์กับลัคนา(ซึ่งเป็นเรือนที่หนึ่ง) เรือนวินาศน์นี้มีดาวพุทธ(๔) ดาวศุกร์(๖) และดาวราหู(๘) มาอยู่ร่วมกัน ดาวพุทธ(๔)มีลักษณะเป็นประคือแบบครึ่งๆกลางๆ และมีความหมายในทางวาจา รวมๆก็คือพูดไม่ครบเรื่องราวต่างๆหรือพูดไม่หมด เมื่อมาร่วมกับดาวราหู(๘)ในทางศัตรูหรือคู่แข่งแล้ว ภายในประเทศมีแต่คนพูดเต็มไปหมด(ทั้งใส่ร้ายใส่ความ) ภายนอกประเทศก็มีเรื่องการใช้วาจาโต้ตอบกันหรือทะเลาะกับต่างประเทศ ดาวศุกร์(๖) มีความหมายในเรื่องการเงินหรือทรัพย์สิน เมื่อมารวมกับดาวราหู(๘)ในความหมายเชิงศัตรูหรือคู่ปรับกัน จะให้ความหมายในเชิงเงินเป็นศัตรู ก็คือ การกู้เงิน จุดที่ ๓) คือจุดที่ดาวอังคาร(๓) ที่อยู่ในราศพฤษกได้ส่งกำลังไปถึงดาวเสาร์(๗) ที่อยู่ในราศีธนู ชนิดเต็ม ๑๐๐ % เพราะดาวอังคาร(๓)เป็น ๘ กับดาวเสาร์ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ (ให้นับ ๑ ที่ดาวอังคารในราศีพฤษก แล้วนับแบบเวียนไปทางซ้าย คือนับ ๒ ในราศีเมถุน จนถึงนับ ๘ ในราศีธนู เพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ หากนับได้เลขคี่ ส่วนใหญ่จะดี แต่หากนับได้เป็นเลขคู่แล้ว ส่านใหญ่จะไม่ค่อยดี) ดาวอังคาร(๓)กับดาวเสาร์(๗) หากเป็น ๘ กันแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดพวกภัยพิบัติ //// ตอนนี้มาลองพิจารณาเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง-------------------- ๑)ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวประจำประเทศไทย ตำแหน่งของดาวในดวงชาตา ตั้งอยู่ในจุดอันถูก(เบียด)เบียนอย่างรุนแรงมาก คือถูกดาวเสาร์(๗)กุม (ครอบงำ) และเล็ง (ทางโหราศาสตร์จีน คือ ชง )กับดาวมฤตยู(๐) เมื่อพิจารณาดาวเสาร์(๗) (เบียด)เบียนดาวพฤหัส(๕)ในราศีธนู ซึ่งกุมในภพหรือเรือนที่ ๑ แล้ว ดาวราหู(๘) ซึ่งเป็นจุดคราสเบียนในภพที่ ๔ ในราศีมีน ดาวมฤตยู(๐)เบียนในภพที่ ๗ อยู่ในราศีเมถุน นี่ย่อมแสดงว่าประเทศไทย(ดาวพฤหัสคือดาว ๕ ) ภายใต้ราชวงส์จักรี จะมีภัยที่ต้องผจญและเผชิญทุกรอบข้าง อันได้แก่ จีน (ดาวเสาร์) ญี่ปุ่น(ดาวมฤตยู) พม่า(ดาวเสาร์) กัมพูชา(ดาวพุธ) และลาว(ดาวพุธ) ๒)ดาวมฤตยู(๐) บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ๓)เหตุการณ์บางเรื่องบางอย่างจะบ่งบอกถึงอาเพทที่กำลังจะเกิดขึ้น อันได้แก่ ปรากฎการณ์ผีพุ่งไต้หรืออุกกาบาต ดาวตก ดาวหาง สุริยคราส ท้องฟ้าอากาศวิปริตอย่างฉับพลัน อาเพทในลักษณะอย่างนี้อาจจะมีการเกิดการสิ้นชีวิตของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง